แนวทางการบริหารจัดการวัดร้างในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

  • ยลรวี รัตนวิชัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

บทคัดย่อ

บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการวัดร้างในจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นการศึกษาเชิงเอกสาร ผลการศึกษาพบว่า วัดร้างเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น การย้ายถิ่นที่ทำกินของชาวบ้าน การไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา การย้ายสถานที่ตั้งวัดเป็นต้น จังหวัดแม่ฮ่องสอนถูกจัดเป็นพื้นที่ป่า ทั้งป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จึงยากต่อการขอระบบอุปโภคขั้นพื้นฐาน การดำเนินการออกเอกสิทธิ์ในที่ดินของวัดทำให้มีวัดร้างเป็นจำนวนมาก การบริหารจัดการวัดร้างในจังหวัดแม่ฮ่องสอนในปัจจุบัน มีการดำเนินการตามแนวทางที่มหาเถรสมาคมและตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนด คือ มีการดำเนินการขอเอกสารสิทธิ์เพื่อให้สามารถดำเนินการขอบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้างและยกวัดร้างเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาต่อไป แนวทางการบริหารจัดการวัดร้างในจังหวัดแม่ฮ่องสอน คือ การจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด ระดับอำเภอและท้องที่ เพื่อดูแลและบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้างให้เป็นวัดมีพระสงฆ์ หรือเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของชาวบ้านในพื้นที่ สร้างความเข้าใจที่ตรงกันและร่วมกันดูแลพัฒนาวัดร้าง

บรรณานุกรม

กองพุทธศาสนถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). คู่มือการปฏิบัติงาน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.

ธนัญชัย ศักดิ์เกียรติกำธร และ ธนภูมิ สุวรรณวีณากุล”. (2566). บริหารจัดการอนุรักษ์และฟื้นฟู “วัดร้าง”เพื่อการพัฒนาเมือง. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://webportal. bangkok.go.th/upload/user/00000305/internship/3.pdf [๘ กันยายน ๒๕๖๖].

พระครูปลัดคำรณ แก้วเกลี้ยง และคณะ. (2565). “การจัดการศาสนสมบัติของวัดในพระพุทธศาสนา”. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 9 (6) : ๒๓๙-๒๕๓.

พัฒน์ธนธร ตันติเวชยานนท์. (2559). “พุทธวิธีพัฒนาวัดร้างในประเทศไทยให้เป็นวัดที่รุ่งเรือง”,วารสาร มจร การพัฒนาสังคม. 1 (2) : ๙-๑๙

วรวิทย์ วศินสรากร. (2566). วัด. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://ejournals.swu.ac.th/index. php/ENEDU/article/download/6296/5915/19801 [๘ กันยายน ๒๕๖๖].

สุรชัย จงจิตงาม. (2564). “วัดในสมัยพุทธกาล”, วารสารปณิธาน, 17 (1) : 1-24.
เผยแพร่แล้ว
2022-06-30